บ แดน ไทย
การศึกษาด้านวิชาชีพ การศึกษาด้านวิชาชีพหมายถึงโรงเรียนด้านวิชาชีพ รวมถึงหลักสูตรอบรมวิชาชีพระยะสั้น หลังปี 1980 เป็นต้นมา การพัฒนาด้านอาชีวะศึกษาของจีนพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน สถานการณ์การเติบโตของการศึกษาด้านอาชีพมีการเปลี่ยนแปลง คือ การศึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง พลศึกษา ศิลปกรรมมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ส่วนการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์มีแนวโน้มลดลง ในปี 2005 มีนักศึกษาในสายอาชีพที่กำลังศึกษาอยู่จำนวนประมาณ 6 ล้านคน 3. การศึกษาระดับอุดมศึกษา การศึกษาระดับอุดมศึกษาหมายถึงการศึกษาระดับอนุปริญญา ระดับปริญญาตรี ปริญญาโท รวมถึงการศึกษาระดับปริญญาทั้งหมด การศึกษาระดับอนุปริญญาใช้เวลา 2-3 ปี ระดับปริญญาตรีใช้เวลา 4 ปี แพทย์ศาสตร์ 5 ปี และยังมีบางสาขาวิชาที่ใช้เวลา 5 ปีเช่นเดียวกัน ปริญญาโทใช้เวลา 2-3 ปี ปริญญาเอกใช้เวลา 3 ปี 4.
เสียงวรรณยุกต์พื้นฐาน เสียงวรรณยุกต์พื้นฐานในภาษาจีนกลางมี 4 เสียง ได้แก่ เสียงหนึ่ง เป็นเสียงสูง เสียงสอง เป็นเสียงขึ้น เสียงสาม เป็นเสียงต่ำ เสียงสี่ เป็นเสียงตก เสียงวรรณยุกต์ทั้งสี่ใช้เครื่องหมาย ˉ,ˊ,ˇ และˋ แทนตามลำดับ เครื่องหมายวรรณยุกต์ทั้งสี่จะเขียนไว้บนเสียงหลักของสระในแต่ละพยางค์ (เสียงหลักของสระหมายถึงเสียงที่ต้องอ้าปากกว้างและออกเสียงดังที่สุดในบรรดาเสียงที่ประกอบขึ้นเป็นสระ) เช่น qiāng, qiáng, qiǎng, qiàng tuī, tuí, tuǐ, tuì เสียงวรรณยุกต์ในภาษาจีนกลางมีคุณสมบัติในการแยกความหมาย ดังนั้น หากเสียงวรรณยุกต์ต่างกัน ความหมายก็จะต่างไปด้วย 2. เสียงเบา พยางค์ประเภทหนึ่งเมื่ออยู่หลังพยางค์อื่นแล้วจะต้องอ่านออกเสียงสั้นและเบา พยางค์ประเภทนี้เรียกว่า เสียงเบา เวลาเขียนพยางค์ที่เป็นเสียงเบาจะไม่ใช้เครื่องหมายวรรณยุกต์ใดๆ กำกับ เช่น hǎo ma? 好吗 (ดีไหม) bō li 玻璃 (แก้ว, กระจก) 3.
2 อุปลักษณ์ ไม่กล่าวถึงสิ่งที่ต้องการสื่อโดยตรง แต่ใช้สิ่งหนึ่งมาอ้างแทนอีกสิ่งหนึ่ง โดยสิ่งที่นำมาแทนที่ต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งเชื่อมโยงความหมายกับสิ่งที่ต้องการสื่อได้ เช่น 情人眼里出西施 ( ในสายตาคนรักแลเห็นไซซี: เมื่อรักใครแล้ว จะรู้สึกว่าเขาดูดีไปหมด) ใช้ " ไซซี " ซึ่งเป็นสาวงามในยุคชุนชิวแทนความงาม 1. 3 บุคลาธิษฐาน พรรณนาสิ่งไม่มีชีวิต หรือสิ่งมีชีวิตอื่นที่ไม่ใช่คนให้มีลักษณะนิสัย พฤติกรรม รวมถึงความรู้สึกเหมือนคนจริงๆ เช่น 猫哭老鼠假慈悲 ( แมวร่ำไห้แก่หนู แสร้งทำเมตาสงสาร) 1. 4 กล่าวเกินจริง ใช้ถ้อยคำเกินจริงพรรณนาสิ่งที่กล่าวถึง ทำให้สื่อความหมายได้ชัดเจน กระตุ้นให้ผู้ฟังเกิดจินตนาการและอารมณ์คล้อยตาม เช่น 一手遮天 ( มือเดียวปิดฟ้า: ปิดบังความจริงไว้) ใช้โครงสร้างทางภาษา อาศัยรูปแบบคำ หรือโครงสร้างไวยากรณ์ที่สมดุลช่วยเสริมให้ความหมายของสำนวนชัดเจนเข้าใจง่าย 2. 1 แบบคู่สมดุล ใช้วลีหรือประโยคสมดุลที่โครงสร้างเหมือนกัน มีเนื้อหาสัมพันธ์กัน เช่น 前因 - 后果 ( เหตุแรก-ผลหลัง: วิถีของเรื่องราว) 2. 2 แบบเรียงร่วม ใช้วลีหรือประโยคที่มีโครงสร้างเหมือนหรือคล้ายกันตั้งแต่สามขึ้นไป เนื้อหาโดยรวมเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวกัน เช่น 说金子晃眼, 说银子傻白, 说铜钱腥气 ( ทองก็พร่าตา เงินก็ขาวจนเซ่อ เหรียญทองแดงก็เหม็นคาว: ไม่ละโมบอยากได้เงินทอง) 2.
3 แบบเชื่อมต่อ ใช้วลีหรือประโยคสมดุลที่โครงสร้างเหมือนหรือคล้ายกัน เชื่อมต่อกันโดยใช้คำท้ายของส่วนหน้าเป็นคำต้นของส่วนหลัง เช่น 好手不 敌双拳, 双拳 难敌四手 ( มือดีไม่สู้สองหมัด สองหมัดยากจะสู้สี่มือ: อย่าเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง) 2. 4 แบบสมมาตร ใช้การสลับลำดับหน้าหลังของวลีหรือประโยคให้มีโครงสร้างสมมาตร เช่น 人人 为我, 我 为人人 ( ทุกคนเพื่อฉัน ฉันเพื่อทุกคน: พึ่งพาอาศัยกัน) 泥和水, 水和泥 ( โคลนเข้ากับน้ำ น้ำเข้ากับโคลน: รวมกันเป็นหนึ่งเดียว)
alfa-seo.ru, 2024