บ แดน ไทย
แม้ว่าคุณได้พยายามอย่างถึงที่สุดแล้วที่จะป้องกันไม่ให้ฟันผุ แต่บางครั้งทันตแพทย์ก็พบฟันผุเล็กน้อยหรือผุซี่หรือสองซี่ได้ อันที่จริงแล้วเราก็ไม่ได้อยากบ่ายเบี่ยงการไปพบทันตแพทย์หากไม่มีอาการปวดฟันแต่อย่างใด แต่ด้วยหลาย ๆ เหตุผล เรามักจะยื่ดเวลาไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเกิดปัญหาใหญ่ เนื่องจากฟันที่ผุมากจนยากที่จะฟื้นฟูให้กลับมาเป็นฟันสุขภาพดีนั่นเอง จะเห็นได้ว่าจุดเริ่มต้นจากปัญหาเล็กน้อยนี่เอง หากปล่อยทิ้งไว้ก็จะปลายเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นมา ทำให้คุณปวดฟัน เหงือกบวม และต้องทำการรักษาที่ยุ่งยากขึ้นไปโดยปริยาย ฟันผุเริ่มต้นจากตรงไหน?
คุณเคยรับการรักษาเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพเหงือกมาก่อนหรือไม่? คุณ สูบบุหรี่ หรือคนในครอบครัวมีปัญหาสุขภาพเหงือกหรือไม่? คำถามเกี่ยวกับกิจวัตรการดูแลสุขภาพในช่องปากของคุณ เช่น คุณแปรงฟันบ่อยแค่ไหน?
ถ้าทันตแพทย์ของคุณวินิจฉัยว่าคุณมีปัญหาเหงือกอักเสบ (gingivitis) ทันตแพทย์อาจแนะนำให้คุณทำความสะอาดฟันโดยผู้เชี่ยวชาญ คือการ 'ขูดหินปูนและขัดฟัน' ซึ่งทำโดยทันตแพทย์ และเป็นวิธีที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อขจัดคราบที่ติดแน่นของ คราบพลัค ออกเพื่อให้ฟันของคุณสะอาดอย่างทั่วถึง ทันตแพทย์ของคุณอาจให้คำแนะนำถึงวิธีที่จะช่วยดูแล และป้องกันปัญหาสุขภาพเหงือกด้วยตัวเอง ฉันควรไปพบทันตแพทย์บ่อยเพียงใด? ทันตแพทย์ของคุณจะแนะนำให้คุณทราบว่าคุณควรมาตรวจเช็คสุขภาพฟันบ่อยเพียงใด ถ้าคุณกำลังประสบปัญหาหรือมีอาการในระหว่างการนัดพบทันตแพทย์ คุณควรทำการนัดพบแพทย์ในทันที
ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ ( Lymphadenitis)". (นพ. สุรเกียรติ อาชานานุภาพ). หน้า 993-994. หาหมอดอทคอม. (พญ. ชลธิรศน์ ศรีเกษตรสรากุล). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: [03 ธ. ค. 2016]. เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย ( Medthai) เรื่องที่น่าสนใจ
ทำความสะอาดฟัน โดย การแปรงฟัน หรือใช้ไหมขัดฟันนำเศษอาหารที่ติดตามซอกฟันออก จากนั้นให้บ้วนปากและกลั้วปากด้วยน้ำอุ่นอีกครั้ง 2. ลดปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดการปวดฟัน เช่นอาหารประเภทเย็นจัด น้ำแข็ง ไอศกรีม อาหารประเภทร้อนจัด เช่น กาแฟร้อน หรืออาหารประเภทหวานจัด เปรี้ยวจัดเป็นต้น จะได้ไม่ไปกระตุ้นให้เกิดอาการปวดฟัน 3. ทานยาลดอาการปวด ซึ่งจะเห็นผลได้เร็ว แต่อาจต้องทานต่อเนื่องถ้าอาการปวดยังไม่หาย แต่ไม่ควรรับประทานติดต่อกันนานเกินไป ยาแก้ปวดสำหรับอาการปวดฟันที่ดีคือ ยาแอสไพริน และยาพาราเซตามอล 4. บ้วนปากด้วยน้ำเกลือ เกลือมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และช่วยลดอาการบวมของเหงือกได้เป็นอย่างดี เพียงผสมเกลือ 1 ช้อนชา กับน้ำอุ่น 250 มิลลิลิตร อมกลั้วปากประมาณ 30 วินาที แล้วบ้วนทิ้ง สามารถทำได้ตามต้องการเลยคะ 5. บ้วนปากด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ที่มีความเข้มข้น 3 เปอร์เซนต์ เป็นการกำจัดเชื้อแบคทีเรียในช่องปากและบริเวณฟันที่ผุ 6. น้ำมันกานพลู เป็นสมุนไพรไทยที่ใช้มาตั้งแต่โบราณ มีฤทธิ์ช่วยลดการปวดฟันได้เป็นอย่างดี เพียงนำสำลีชุบน้ำมันกานพลู แล้วอุดลงไปในรูฟันที่ผุ อาการปวดก็จะทุเลาลง 7. เหล้าแรง เป็นการจำกัดเชื้อโรคภายในช่องปากและฟันที่ผุ โดยนำสำลีหรือผ้าชุบเหล้าเช็ดบริเวณที่ปวดเบาๆ อาการปวดฟันจะดีขึ้น 8.
น้ำมันมะพร้าว มีสรรพคุณในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ดีมาก เพียงคุณอมน้ำมันมะพร้าว 30 วินาที จะช่วยให้อาการปวดฟันเบาลง และหากหายจากการปวดฟันแล้ว คุณสามารถอมน้ำมันมะพร้าวได้ทุกวันนะคะ 9. น้ำมันกระเทียม เพียงคุณนำสำลีชุบน้ำมันกระเทียมมาทาบริเวรที่ปวดฟัน ทิ้งไว้สักครู่ อาการปวดฟันก็จะดีขึ้น แต่วิธีนี้จะสามารถบรรเทาอาการได้เพียงชั่วคราวเท่านั้นเองคะ 10. แช่ใบชาดำกับน้ำร้อนนาน 20 นาที รอจนน้ำอุ่นแล้วนำมากลั้วปาก แล้วบ้วนทิ้ง เพราะใบชามีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบและช่วยลดอาการเหงือกบวมจากฟันผุได้เป็นอย่างดี 11. ประคบด้วยน้ำแข็ง จะเป็นการช่วยลดการอักเสบได้เป็นอย่างดี ให้นำน้ำแข็งห่อใส่ผ้าประคบข้างแก้มหรือบริเวณที่ปวด ไม่ควรนำน้ำแข็งไปประคบกับฟันโดยตรงจะยิ่งทำให้ปวดมากขึ้นคะ สำหรับใครที่กำลังปวดฟันอยู่ลองนำวิธีเหล่านี้ไปใช้ดูนะคะ แล้วอย่าลืมไปทันตแพทย์เพื่อแก้ที่ต้นเหตุของการปวดฟันด้วยนะคะ ข้อมูลอ้างอิง วิธีแก้ปวดฟัน พิชิตได้ง่ายๆ ทำแล้วสบายไม่ต้องทนปวด: ปวดฟัน อาการ สาเหตุ และการรักษาอาการปวดฟัน 36 วิธี: 7วิธีแก้ปวดฟัน ด้วยสิ่งของหาง่าย ที่ไม่ควรมองข้าม:
alfa-seo.ru, 2024