บ แดน ไทย
ผู้เอาประกันภัยโควิด 400 ชีวิตบุกสำนักงานคปภ. หลังคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาต "อาคเนย์-ไทยประกันภัย" กังวลเคลมเงินค่ารักษาตัวไม่ได้ ด้านตัวแทนคปภ. ระบุเริ่มเปิดให้ผู้เอาประกันลงทะเบียนยื่นเอกสารทางออนไลน์กับกองทุนประกันวินาศภัยภายใน 60 วัน อยากได้คำตอบจากไทยประกัน และอาคเนย์ว่าลูกค้าจะได้สินไหมอย่างไร เพราะเช็คก็ไม่ได้ ค่ารักษาในการตรวจแลบ ค่าใช้จ่ายในการรักษาโควิดก็มีเยอะ เสียงสะท้อนของผู้เอาประกันโควิด-19 จากบริษัทอาคเนย์ประกันภัย และบริษัทไทยประกันภัย ที่เข้าเข้ามาร้องขอความเป็นธรรม ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ. ) ให้ทบทวนการเพิกถอนใบอนุญาต รวมทั้งต้องการความชัดเจนจากกองทุนประกันวินาศภัย เรื่องการจ่ายเงินสินไหมทดแทน ทั้งนี้ผู้เอาประกันภัยจากบริษัทอาคเนย์ประกันภัย และไทยประกันภัย กว่า 400 คน รวมตัวกันขอความเป็นธรรมที่ คปภ. หลังเมื่อวันที่ 1 เม. ย. ที่ผ่านมา นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว. คลัง ประกาศให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย ทั้ง 2 บริษัท ซึ่งหลังจากนี้กองทุนประกันวินาศภัย หรือ กปว. จะเข้ามารับช่วงการจ่ายเงินประกัน ผู้เอาประกันโควิด-19 ส่วนใหญ่กังวลว่า อาจไม่ได้รับเงินประกัน มาทวงสิทธิ์และมาหาคำตอบว่า คปภ.
กล่าวว่า สำนักงาน กสทช. เร่งศึกษาและคุมเข้มในการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และมิจฉาชีพที่ใช้ช่องทางออนไลน์ โทร และ SMS หลอกลวงประชาชน โดยได้ร่วมมือกับหลายภาคส่วนเพื่อหามาตรการป้องกัน แก้ไข ตลอดจนแจ้งเตือนและให้ความรู้แก่ประชาชนไม่ให้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ซึ่งที่ผ่านมา กสทช.
การอนุญาตผ่อนปรนมาตรการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ภายใต้กรอบ WTO (ให้นำเข้าได้ 3. 8 แสนตัน ภาษี 0%) มีเงื่อนไข คือ ห้ามขึ้นราคาอาหารสัตว์ ซึ่งเรื่องนี้เป็นข้อเรียกร้องของอธิบดีกรมการค้าภายใน และสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย ได้ตอบแล้วว่าไม่สามารถทำได้ เนื่องจากการผ่อนปรนมาตรการเป็นการเพิ่มโอกาสในการใช้วัตถุดิบ แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะนำเข้ามาได้ตามจำนวนและราคาที่ต้องการ จำนวนนำเข้าอาจจะเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ 0-100% ทั้งนี้ราคาวัตถุดิบขึ้นกับ 2 ปัจจัย คือ 1. นโยบายรัฐ และ 2. สถานการณ์ตลาดโลก 3. ตัวเลขผลผลิต ข้าวโพดหลังนา ที่ออกสู่ตลาดมีจำนวน 0. 39 ล้านตัน มิใช่ 0. 83 ล้านตันตามในข่าวแต่ อย่างใด จึงเรียนมายังท่านเพื่อโปรดพิจารณาแก้ไขข่าวที่บิดเบือนดังกล่าว อันจะส่งผลต่อความเข้าใจผิดของประชาชนทั่วไปต่อภาครัฐและภาคธุรกิจอาหารสัตว์ ลงนามโดยนายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย ข่าวที่น่าสนใจ
กระทรวงเกษตร แจกกระท่อม ให้กับประชาชนที่สนใจคนละสามต้น เพื่อเพาะพันธุ์เป็นสมุนไพร ขับเคลื่อนไปสู่การผลิตพืชเชิงพาณิชย์หรือเป็นพืชเศรษฐกิจทางเลือก นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ระบุว่า "เริ่มแล้ว! กระทรวงเกษตรแจกต้นกล้า กระท่อม พันธุ์ดี 2แสนต้น ให้กับเกษตรกรและประชาชนที่สนใจ ในโครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตและขยายกระท่อมพันธุ์ดี รับได้ฟรี! คนละ3ต้น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป(จนกว่าของจะหมด) ที่ศูนย์ขยายพันธุ์พืช 10แห่ง เช่น ศูนย์ขยายพันธุ์พืชชลบุรี ตรัง ลำพูน ฯลฯ" ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ดร. เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว. เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตและขยายกระท่อมพันธุ์ดี ณ ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 4 จ. นครศรีธรรมราช ว่า จากความต้องการพืชกระท่อมของเกษตรกรและผู้สนใจทั่วไปมีจำนวนมาก จึงได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตรจัดทำโครงการผลิตและขยายต้นกล้ากระท่อมพันธุ์ดี ซึ่งผลิตกระท่อมโดยการนำเมล็ดในสภาพปลอดเชื้อมาเพาะเลี้ยงด้วยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เพื่อเพาะพันธุ์กระท่อมพันธุ์ดีไว้เป็นพืชสมุนไพรพื้นบ้านเพื่อใช้ในครัวเรือน และสามารถนำไปพัฒนาอาชีพเป็นพืชทางเลือกในอนาคต ก่อให้เกิดการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและชุมชน ตลอดจนเป็นการพัฒนานวัตกรรมการผลิตและขยายกระท่อมพันธุ์ดีสำหรับรองรับความต้องการในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับแผนแม่บทแห่งชาติว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรไทย ฉบับที่ 1 พ.
สาธารณสุข 28 ก. พ. 2565 เวลา 9:15 น. 14.
เช็กสัญญาณไฟแจ้งเตือน รถยนต์ในยุคปัจจุบันเรียกได้ว่าแทบจะมีระบบตรวจวัดทุกอย่างเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่อยู่แล้ว ดังนั้นสตาร์ทรถยนต์ทุกครั้งเราควรจะดูสัญลักษณ์ไฟต่าง ๆ บนมาตรวันซึ่งอยู่หน้าผู้ขับขี่อยู่เสมือเพราะในบางส่วนสำคัญ ไฟต่าง ๆ เหล่านี้จะช่วยแจ้งเตือนในสิ่งที่เราอาจไม่สามารถตรวจเช็กได้ด้วยตัวเอง อาทิ การทำงานของระบบถุงลมนิรภัย, การทำงานของระบบควบคุมการทรงตัว หรือแม้กระทั่งข้อมูลพื้นฐานต่าง ๆ ของตัวรถที่อาจจะหลุดรอดสายตาการตรวจเช็กของเราไป การสังเกตสัญลักษณ์ไฟเหล่านี้จึงช่วยตรวจสอบซ้ำได้อีกทางหนึ่ง 6.
ต. อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ กล่าวว่า ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส. ) หรือ ศูนย์ PCT เดินหน้าขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พร้อมผสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ในการปราบปรามจับกุมผู้ก่ออาชญากรรมออนไลน์และดำเนินโครงการเชิงรุกเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชนรู้ทันกลโกงของกลุ่มมิจฉาชีพ ซึ่งความร่วมมือกับ ทรูมูฟ เอช และ กสทช. ในครั้งนี้ จะช่วยเสริมการทำงานของศูนย์ฯ ให้รู้และเข้าถึงกลุ่มมิจฉาชีพได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น สามารถยับยั้งได้อย่างทันท่วงที และนำไปสู่การแก้ไขปัญหาได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่การรับแจ้งเบาะแสจากประชาชนผู้ใช้บริการทรูมูฟ เอช เพื่อทำการติดตาม ตรวจสอบ สืบหาต้นตอ และเข้ากวาดล้างจับกุมกลุ่มมิจฉาชีพให้ได้รับโทษตามกฎหมายในที่สุด มั่นใจว่าจะช่วยบรรเทาทุกข์ของประชาชน ตลอดจนช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดจากการตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพ ด้าน นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช. )
ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล | 12 เม. ย. 2565 เวลา 4:38 น. สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ฯ ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงปลัดกระทรวงพาณิชย์ ระบุข่าวบิดเบือน แจงผลประชุมแก้ปัญหาวัตถุดิบอาหารสัตว์ ทางสมาคมฯไม่ได้รับปากจะรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ไม่ต่ำกว่า 12. 50 บาทต่อกก. รวมถึงห้ามขึ้นราคาอาหารสัตว์ รายงานจาก สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย เผยว่า ได้ทำหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ สผ. 0446 / 2565 ลงวันที่ 12 เมษายน 2565 ถึง ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การให้ข่าวที่บิดเบือนข้อเท็จจริง เนื้อหาสำคัญระบุว่า ตามที่ กระทรวงพาณิชย์ได้จัดให้มีประชุมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาและบริหารจัดการ วัตถุดิบอาหารสัตว์ เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2565 โดยมีท่านเป็นประธานการประชุม ต่อมานายกสมาคมชาวไร่มันสำปะหลัง (นายรังสี ไผ่สอาด) ได้ให้ข่าวกับสื่อบางฉบับ เกี่ยวกับรายละเอียดผลการประชุมดังกล่าว ซึ่ง เนื้อหาข่าวมีความบิดเบือน ไม่ตรงตามที่หารือในที่ประชุม ดังนี้ 1. ที่ประชุมมีมติให้อาหารสัตว์ รับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เฉลี่ย ไม่ต่ำกว่า 12. 50 บาท/กก. ซึ่งเรื่องนี้เป็นเพียงข้อสอบถามของนายกสมาคมชาวไร่มันสำปะหลังเท่านั้น และสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย ได้ตอบคำถามชัดเจนแล้วว่าเป็นคำถามที่ไม่สามารถตอบได้เพราะสมาคมไม่มีอำนาจประกันราคา จะต้องสอบถามสมาชิกก่อน 2.
alfa-seo.ru, 2024